ที่ดีที่สุดของ
10 เกม PlayStation 5 ที่ดีที่สุดตลอดกาล

เมื่อราคาของ PS4 หลังจากเปิดตัว ผู้เล่นต่างคิดว่าการเล่นเกมได้ก้าวมาถึงจุดสูงสุดแล้ว ภาพกราฟิก ความเร็ว และโลกที่เราเคยสำรวจในสมัยนั้นให้ความรู้สึกว่าไม่มีใครเทียบได้ แต่แล้ว PS5 ก็มาถึง และทันใดนั้น ทุกสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับการเล่นเกมก็พัฒนาขึ้น
คอนโซลนี้มาพร้อมกับความเร็วในการโหลดที่รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ กราฟิก Ray-Traced ที่น่าทึ่ง และคอนโทรลเลอร์ DualSense อันน่าทึ่ง เกมต่างๆ สมจริงยิ่งขึ้น เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้น และแอคชั่นที่ลื่นไหลกว่าที่เคย หลายปีแล้วในยุค PS5 เราได้เห็นผลงานชิ้นเอกที่แท้จริง นี่คือ สุดยอดเกม PS5 เวลาทั้งหมด.
10. Call of Duty: Black Ops สงครามเย็น

หากมี FPS หนึ่งเกมที่ยังครองชาร์ตอยู่ นั่นก็คือ Call of Duty: Ops สีดำ สงครามเย็นบน PS5 เกมนี้ลื่นไหล คมชัด และน่าเล่นมาก เนื้อเรื่องจะพาคุณเข้าสู่ช่วงสงครามเย็น เต็มไปด้วยภารกิจลับ การสอบสวนอันเข้มข้น และตอนจบที่หลากหลายซึ่งขึ้นอยู่กับตัวเลือกของคุณ Call of Duty เกมดังกล่าวเป็นหนึ่งในเกม FPS แบบผู้เล่นหลายคนที่ดีที่สุด รวดเร็ว วุ่นวาย และสนุกสุดเหวี่ยงอยู่เสมอ ด้วยทริกเกอร์ที่ปรับเปลี่ยนได้และการตอบสนองแบบสัมผัสผ่าน DualSense ทุกกระสุนและการระเบิดจะให้ความรู้สึกสมจริง
9. แกรนทัวริสโม 7

เกมนี้เปรียบเสมือนจดหมายรักถึงรถยนต์ ไม่ว่าคุณจะแต่งรถในฝันหรือทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองบนสนามแข่งจริง ทุกตารางนิ้วของเกมนี้ล้วนบ่งบอกถึงความหลงใหลบนท้องถนน บน PS5 มันคือผลงานชิ้นเอกด้านภาพ แต่ 7 Gran Turismo ไม่ได้มีแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสบการณ์ ระบบปรับแต่งที่ล้ำลึก และฟิสิกส์การขับขี่ที่สมจริง คอนโทรลเลอร์ DualSense ยกระดับไปอีกขั้น ให้ผู้เล่นสัมผัสทุกการสั่นสะเทือน การดริฟต์ และการเปลี่ยนเกียร์ได้ราวกับกำลังจับพวงมาลัยอยู่เอง จึงไม่น่าแปลกใจที่เกมนี้ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลเกมกีฬา/แข่งรถยอดเยี่ยม และยังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นประสบการณ์การแข่งรถที่สมบูรณ์แบบบน PS5
8. Assassin's Creed Valhalla

ไวกิ้ง เรือยาว และการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่: ฆาตกรของ Creed valhalla มอบทุกสิ่งที่คุณต้องการและมากกว่านั้น การต่อสู้ที่ดุเดือดในแบบที่ดีที่สุด: การโจมตีที่หนักหน่วง การจบเกมที่ดุเดือด และเสียงกระทบกันของเหล็กกระทบเหล็กที่น่าพึงพอใจ บน PS5 ประสบการณ์นี้จะยกระดับไปอีกขั้น ประสิทธิภาพ 60fps ที่ราบรื่นและภาพ 4K ที่คมชัด ทำให้ทุกภาพพระอาทิตย์ขึ้น เนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และหมู่บ้านที่ลุกเป็นไฟดูมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ ระยะการมองเห็นและเอฟเฟกต์แสงยังน่าทึ่ง ทำให้อังกฤษยุคกลางดูมีชีวิตชีวาด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Valhalla เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่เป็นที่รักมากที่สุด
7 The Witcher 3: Wild Hunt

เป็นเรื่องยากที่เกมที่วางจำหน่ายเมื่อหลายปีก่อนจะให้ความรู้สึกเหมือนใหม่ แต่ The Witcher 3: ป่าล่า พิสูจน์ความเหนือกาลเวลา การอัปเกรด PS5 ยกระดับเกม RPG ในตำนานให้กลายเป็นผลงานชิ้นเอกแห่งยุคถัดไป Complete Edition มาพร้อมระบบเรย์เทรซ ความเร็วในการโหลดที่เร็วขึ้น และพื้นผิวที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ทำให้โลกของ The Continent น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่การติดตามสัตว์ร้ายในป่าอันมืดมิดไปจนถึงการคลี่คลายแผนการทางการเมือง ทุกภารกิจล้วนมีความหมาย ด้วยการเพิ่มส่วนเสริมขนาดใหญ่สองส่วน หัวใจหิน และ เลือดและไวน์คุณมีเวลาหลายร้อยชั่วโมงในการเล่าเรื่องล้วนๆ
6. Ghost of Tsushima: ฉบับผู้กำกับ

เกมไม่กี่เกมที่สามารถถ่ายทอดความสวยงามและความรุนแรงได้เท่ากับ ผีของ Tsushimaในบทบาทของจิน ซากาอิ คุณต้องต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของคุณจากการรุกรานของพวกมองโกล ขณะเดียวกันก็ต้องต่อสู้กับศักดิ์ศรีของตนเองด้วย PS5พลังของเกมนี้ทำให้ประสบการณ์นี้น่าทึ่ง ทุกใบไม้ ลมกระโชก และการฟาดฟันด้วยดาบให้ความรู้สึกเหมือนมีชีวิต ฉบับ Director's Cut ได้เพิ่มส่วนเสริมเกาะอิกิเข้ามา มอบมิติทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งและความท้าทายใหม่ๆ นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์และรูปแบบการเล่นที่คุ้มค่า ด้วยการดวลที่เข้มข้นราวกับบทกวีที่เคลื่อนไหว
5. แอสโตรบอท

แอสโตร บอท อาจดูเหมือนเกมแพลตฟอร์มสำหรับเด็ก ๆ ที่ไม่หนักท้อง แต่อย่าให้เสน่ห์ของมันหลอกคุณได้ เพราะนี่คือหนึ่งในเกมที่สนุกสนานและสร้างสรรค์ที่สุดที่เคยสร้างมาสำหรับ PS5 แอสโตร บอท เป็นมากกว่าแค่การจัดแสดงฮาร์ดแวร์ แต่มันคือการเฉลิมฉลองมรดกของ PlayStation อย่างเต็มรูปแบบ แต่ละโลกเต็มไปด้วยความทรงจำ ไข่อีสเตอร์ และเกมเพลย์ที่เข้มข้นและน่าพึงพอใจ จึงไม่น่าแปลกใจเลย แอสโตร บอท กลายเป็นเกมยอดฮิตที่ไม่มีใครคาดคิด คว้ารางวัลมากมาย เช่น เกมสำหรับครอบครัวยอดเยี่ยม และเกมแพลตฟอร์มยอดเยี่ยม พิสูจน์ให้เห็นว่าความคิดสร้างสรรค์ ความหลงใหล และหัวใจ สามารถเอาชนะแม้แต่เกมฟอร์มยักษ์ได้
4. ประตู Baldur 3

Baldur's Gate 3 คือผลงานชิ้นเอกที่ถ่ายทอดเรื่องราว อิสรภาพ และความลึกซึ้งทางอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง เกมนี้นิยามใหม่ให้กับเกม RPG อย่างแท้จริง โลกแห่งชีวิตที่ทุกตัวเลือก บทสนทนา และการทอยลูกเต๋า ล้วนสามารถเปลี่ยนการเดินทางของคุณได้อย่างสิ้นเชิง เกมนี้ได้พัฒนามาตลอดหลายปีจากรากฐานดั้งเดิมบนพีซี สู่หนึ่งในประสบการณ์การเล่าเรื่องที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา และในตอนนี้ เวอร์ชัน PS5 ก็ได้นำความลุ่มลึกและความซับซ้อนแบบเดียวกันนี้มาสู่ผู้เล่นบนคอนโซลโดยไม่สูญเสียคุณภาพ แน่นอนว่าภาพกราฟิกนั้นน่าทึ่ง การแสดงก็ยอดเยี่ยม และการต่อสู้เชิงกลยุทธ์ก็ให้ความรู้สึกพึงพอใจอย่างเหลือเชื่อ
3. ไฟนอลแฟนตาซี VII เกิดใหม่

Final Fantasy VII การเกิดใหม่ คือสิ่งที่แฟนๆ คาดหวังไว้และยิ่งกว่านั้นอีก เกมนี้นำเอาเกมคลาสสิกสุดโปรดมาสร้างใหม่ตั้งแต่ต้นสำหรับ PS5 มอบประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่สมจริง ระบบการต่อสู้ผสมผสานกลยุทธ์และแอคชั่นแบบเรียลไทม์ได้อย่างลงตัว ให้คุณวางแผนการเคลื่อนไหวได้ตั้งแต่วินาทีแรก และปลดปล่อยคอมโบสุดเร้าใจในวินาทีถัดไป เรื่องราวจะเจาะลึกเข้าไปในตัว Cloud และทีมของเขามากขึ้น มอบบุคลิก อารมณ์ขัน และความรู้สึกที่มากขึ้นในทุกช่วงเวลา ท้ายที่สุดแล้ว เกมนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ ความตื่นเต้น และเต็มไปด้วยความประหลาดใจ การเกิดใหม่ ไม่เพียงแค่เล่าเรื่องคลาสสิกอีกครั้ง แต่ยังสร้างสรรค์มันขึ้นมาใหม่ด้วย
2. เทพเจ้าแห่งสงคราม: แร็กนาร็อก

Ragnarök คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อการเล่าเรื่องและการเล่นเกมผสานกันอย่างลงตัว เทพเจ้าแห่งสงคราม: Ragnarök นำเสนอหนึ่งในเรื่องราวที่ทรงพลังทางอารมณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในเกมแอคชั่น มันคือเรื่องราวของครอบครัว โชคชะตา และการไถ่บาปที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของ PS5 การต่อสู้ให้ความรู้สึกหนักแน่นและลื่นไหลมากขึ้น ขวานของเครโทสทุกการฟาดฟันจะสะท้อนก้องไปทั่วคอนโทรลเลอร์ DualSense ยิ่งไปกว่านั้น ภาพกราฟิกยังน่าทึ่ง และการเล่นก็ลื่นไหลราวกับเนย
1. The Last of Us ภาค II รีมาสเตอร์

บนยอดเขามีที่ตั้ง The Last of Us Part II มาสเตอร์ใหม่บัดนี้ เกมนี้ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับการเล่าเรื่องและอารมณ์ความรู้สึกในเกม ที่สำคัญคือเป็นหนึ่งในเกมที่ผสมผสานรูปแบบการเล่นเอาชีวิตรอดอันโหดร้ายเข้ากับช่วงเวลาแห่งมนุษยชาติได้อย่างลงตัว ทุกทางเลือก บาดแผล และทุกการเหลือบมองล้วนมีความหมาย ดึงผู้เล่นให้ดำดิ่งสู่การเดินทางอันน่าจดจำของเอลลี่ ยิ่งไปกว่านั้น เวอร์ชันรีมาสเตอร์ยังมาพร้อมกับภาพกราฟิก 4K อันน่าทึ่ง ความเร็วในการโหลดที่เร็วขึ้น และโหมด No Return ใหม่ นี่คือความท้าทายเอาชีวิตรอดแบบโร้กไลก์ที่เพิ่มความสนุกในการเล่นซ้ำไม่รู้จบ











